"ข้าพเจ้าระลึกถึงความเชื่ออย่างจริงใจของท่าน ซึ่งเป็นความเชื่อที่โลอิสยายของท่านมีเป็นคนแรกแล้วมีในยูนิสมารดาของท่านและบัดนี้ข้าพเจ้าก็เชื่อว่ามีอยู่ในตัวท่านด้วย..." 2 ทิโมธี 1:5
มีสองสิ่งสำคัญในพระธรรมข้อนี้ :
ประการแรก อิทธิพลครอบครัวหล่อหลอมชีวิต ทิโมธีเป็นเด็กหนุ่มแทนที่จะใช้ชีวิต ไหลไปตามสังคมที่ไร้ศีลธรรมหรือไหลตามค่านิยมที่ไม่ดีในยุคนั้น แต่เขากลับดำเนินชีวิตในทางธรรม ในสายตาของคนหนุ่มสาวทั่วไป เขาอาจถูกมองเป็นตัวตลกที่เขาไม่ยอมเป็นเหมือน คนอื่นๆ ทิโมธีกล้าที่จะไม่เหมือน ทิโมธีรับอิทธิพลจากคุณยายและคุณแม่ ทั้งสองคนเป็นแบบอย่าง ในการดำเนินชีวิต เขาซึมชับจากสิ่งที่เขาเห็นตั้งแต่เล็กจนโตข้อคิดในเรื่องนี้คือ ทุกวันนี้พ่อแม่เฉพาะ อย่างยิ่ง "แม่" จะอยู่ใกล้ชิดลูกและลูกได้รับรู้อิทธิพลชีวิตมากที่สุดจากแม่ ฉะนั้นขอให้แม่ทั้งหลาย เป็นเหมือนแม่ของทิโมธีที่ให้ความสำคัญในการหล่อหลอมลูกตั้งแต่วัยเยาว์ เพื่อเมื่อเขาเติบโตขึ้น จะเป็นคนดีที่เราภาคภูมิใจ
ประการที่สอง อิทธิพลความเชื่อ ทั้งคุณยายและคุณแม่ นอกจากจะถ่ายทอดแบบอย่าง ที่ดีให้ลูกหลานแล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งที่ท่านทั้งสองถ่ายทอดเป็นมรดกตกทอด คือความเชื่อและความยำเกรงพระเจ้า
ความเชื่อในพระเจ้าและในองค์พระเยซูคริสต์เจ้านั้น มีอิทธิพลต่อชีวิตในการกำหนดวิถีชีวิต การตัดสินใจ ความหวังทั้งชีวิตในโลกนี้และโลกหน้า และกำลังใจ เป็นหน้าที่สำคัญของพ่อแม่ ที่จะถ่ายทอดและเป็นแบบอย่างความเชื่อและวิถีชีวิตให้ลูกหลานได้เห็นตั้งแต่เด็ก และเมื่อเขาโตขึ้น เขาจะไม่พรากไปจากทางของพระเจ้า
นี่คือความรับผิดชอบของบิดามารดาต่อบุตรหลาน เป็นแบบอย่างและถ่ายทอดมรดก แห่งความเชื่อสืบต่อไป